“ฉลามจินซุ” (Ginsu Shark) ชื่อวิทยาศาสตร์ Cretoxyrhina mantelli เป็นฉลามที่ใหญ่ที่สุดและเป็นนักล่าที่น่าเกรงขามที่สุดตัวหนึ่งในทะเลยุคครีเทเชียสตอนปลาย ราว ๆ 107 ถึง 73 ล้านปีก่อน ซึ่งชื่อ Ginsu มาจากมีดทำครัวญี่ปุ่น เนื่องจากมันมีฟันที่คมกริบสามารถฉีกเนื้อของเหยื่อได้ราวกับใบมีดเลยทีเดียว ปล.รูปปกเป็นฟอสซิลของฉลามขาวอายุ 4.5 ล้านปี

โดยการมีอยู่ของฉลามจินซุถูกยืนยันครั้งแรกเมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จากฟอสซิลฟันและกระดูกบางส่วนที่ถูกธรรมชาติรักษาไว้เป็นอย่างดีในรัฐแคนซัส ประเทศอเมริกา ซึ่งนักวิจัยวิเคราะห์ว่า ฉลามจินซุจะโตเต็มที่ตอนอายุ 4-5 ปี และมีอายุยืนถึง 40 ปี มันกระจายตัวอยู่ในทุกมหาสมุทรทั่วโลก แต่สามารถพบได้มากในเขตอเมริกาเหนือ
แต่ถึงอย่างนั้น ฟอสซิลของฉลามจินซุก็ค่อนข้างหายาก เพราะมันเป็นสัตว์กระดูกอ่อน จึงยากที่จะถูกเก็บรักษาจนกลายเป็นฟอสซิลได้ (นี่อาจเป็นเหตุผลที่เราไม่เคยพบฟอสซิลตัวของเมกาโลดอน) แต่สิ่งที่ทำให้เราทราบถึงการมีอยู่ของฉลามจินซุคือ “ฟัน” ที่อุดมสมบูรณ์แข็งแรง มีลักษณะเรียบ โค้งงอ ยาวประมาณ 8 เซนติเมตร รวมถึงรอยกัดและฟันที่ฝังอยู่ในกระดูกของเหยื่อ ซึ่งหลายครั้งมันบ่งบอกว่า ฉลามจินซุนั้นสังหารเหยื่อยอย่างโหดเหี้ยมและไร้ปราณี

ทั้งนี้ “ฉลามจินซุ” มีความยาวสูงสุด 8 เมตร หนักเกือบ 5,000 กิโลกรัม จัดว่าเป็นหนึ่งในฉลามที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ มีลักษณะคล้าย “ฉลามขาว” ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกว่าขนาดตัวเท่านี้ในยุคไดโนเสาร์ก็ไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่มั้ง แต่บอกเลยว่าคิดผิด เพราะเรื่องขนาดไม่ใช่ปัญหา มันสามารถล่าสัตว์ทะเลได้ทุกชนิด แม้แต่โมซาซอร์ (Mosasaur) นักล่าที่ใหญ่กว่ามัน 2 เท่า ก็ยังตกเป็นอาหารจานโปรดของฉลามจินซุ – ปล.หลายคนอาจเคยเห็นโมซาซอร์ ในหนัง Jurssic World ที่หน้าตาคล้ายวาฬผสมจระเข้ ในฉากโผล่มาจากน้ำกินฉลาม
เนื่องจากนักวิจัยของ Kansas Academy of Sciences รายงานว่า พวกเขาพบซากฟอสซิลของ “โมซาซอร์” ที่บริเวณกระดูกสันหลัง ครีบ หาง และซี่โครงมีรอยการถูกกัดโดยฉลามจินซุ แถมยังมีเศษฟันที่ฝังติดกระดูกอยู่ด้วย เมื่อวิเคราะห์จากหลักฐานดังกล่าว บ่งบอกลักษณะการจู่โจมของฉลามจิสุได้ว่า มันจะโจมตีหางและครีบของโมซาซอร์ก่อน เพื่อให้เหยื่อไม่สามารถว่ายน้ำได้ จากนั้นก็สามารถจัดการปลิดชีพเหยื่อ ด้วยการกัดเข้าที่กระดูกสัน

ว่าแต่ฉลามจินซุทั้งโหดและเถื่อนขนาดนี้..แล้วมันสูญพันธุ์ได้ไง ? ตอบ : นักวิจัยวิเคราะห์ว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ฉลามจินซุสูญพันธุ์ แต่หลัก ๆ คาดว่ามาจากสภาพแวดล้อมของน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงไป แหล่งอาหารน้อยลง และต้องต่อสู้แก่งแย่งกับนักล่าตัวอื่น รวมถึงการหายไปของ Western Interior Seaway ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหลักของฉลามจินซุด้วย (เป็นทะเลที่เคยมีอยู่ในยุคครีเทเชียส ปัจจุบันคือทวีปอเมริกาเหนือ)
Fact – สาเหตุหลักที่ทำให้ “เมกาโลดอน” (Megalodon) ฉลามที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเลที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 16 ล้านปีก่อน ต้องสูญพันธุ์ไป คือ “ไม่มีอาหารเพียงพอให้กินจนอดตาย” โดยมีลำดับเหตุการณ์ดังนี้ : เริ่มจากระดับน้ำลดลงกระทันหัน – วาฬเบลีนและแมวยักษ์ไม่มีที่อยู่ – ทำให้เมกาโลดอนไม่มีอาหารกิน – รวมถึงไม่มีแหล่งขยายพันธุ์ – สุดท้ายเมื่อไม่มีทั้งอาหารและแหล่งขยายพันธุ์ – พวกมันจึงสูญพันธุ์ในที่สุด